กะทิ.. ดีอย่างไร

จากที่แทบทุกคนจะรู้จักกันเป็นอย่างดีและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีว่า กะทินั้นใช้ประกอบอาหารหรือทำขนมหวานซะส่วนใหญ่ แต่หารู้ไม่ว่า กะทินั้นยังมีประโยชน์และสรรพคุณสามารถนำมาหมักผมให้มีผมสลวยและผิวพรรณอันน่าสัมผัสเหมือนกับนางเอกหนังโป๊เลยทีเดียวเชียวล่ะค่ะ และยังมีประโยชน์ต่าง ๆ มากมายต่อร่างกายของเรา งั้นเราไปดูกันเลยดีกว่านะคะว่าประโยชน์ต่าง ๆ ของกะทินั้นมีอะไรบ้าง
ประโยชน์ของกะทิ
1. ช่วยบำรุงผมที่แห้งเสีย
กะทินั้นมีส่วนช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดีเยี่ยมเลยล่ะค่ะ สามารถนำมาใช้เพื่อช่วยบำรุงผมที่แห้งเสียได้ ขั้นตอนง่าย ๆ ในการนำมาใช้ก็คือ นำน้ำกะทิมาแช่ในตู้เย็น 1 คืน จากนั้นรุ่งเช้าถัดมาให้นำน้ำกะทิที่แช่ตู้เย็นไว้มาชโลมลงบนผม ตั้งแต่โคนจรดปลายให้ทั่วหัว ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที เมื่อครบเวลาแล้วจึงล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า รับรองได้ว่า เมื่อสาว ๆ ทำอย่างนี้เป็นประจำทุกวัน ผมของสาว ๆ จะต้องนุ่มสลวยเหมือนนางเอกหนังโป๊เลยล่ะค่ะ สะบัดไปมา น่าสัมผัสเป็นอย่างยิ่งเลยล่ะ
2. ช่วยให้หมดปัญหาเรื่องผมพันกัน
กะทิ ไม่ได้มีประโยชน์แค่ช่วยให้ผมหนาเงา มีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นและผมยาวเร็วขึ้นเท่านั้นนะคะ แต่ยังสามารถช่วยลดปัญหาเรื่องผมพันกันด้วยล่ะค่ะ โดยเราสามารถนำกะทิชโลมลงบริเวณที่ผมพันกันได้เลยค่ะ เมื่อเวลาเราหวี เราจะรู้สึกว่าเราหวีผมได้ง่ายขึ้น ผมพันกันน้อยลง รับรองและการันตีเลยค่ะว่าสาว ๆ ที่มีผมยาวจะต้องเลิฟสิ่งนี้เป็นที่แน่นอนเลยล่ะค่า
3. ช่วยให้ระบบเผาผลาญดีขึ้น
เพราะกะทิเป็นอาหารที่ย่อยง่าย เนื่องจากเป็นกรดไขมันในขนาดปานกลาง เมื่อเรารับประทานเข้าไปแล้วล่ะก็ ร่างกายของเราก็จะนำเจ้ากะทิไปใช้ประโยชน์ได้อย่างรวดเร็ว โดยร่างกายของเราจะเปลี่ยนกรดไขมันที่ได้จากกะทิไปเป็นพลังงานที่พร้อมจะใช้งานทันทีโดยไม่ต้องมาสะสมอยู่ในตับ แถมยังช่วยให้มีไขมันสะสมในร่างกายน้อยลงด้วยนะคะ
4. ช่วยให้มีภูมิคุ้มกันในร่างกาย
จากการศึกษาค้นคว้าพบว่าในกะทินั้นมีกรดลอริคอยู่ปริมาณค่อนข้างมากเลยทีเดียวค่ะ ซึ่งเจ้ากรด ลอริคนี้ก็เป็นกรดตัวเดียวกันกับที่มีอยู่ในน้ำนมของแม่ เมื่อเข้าสู่ร่างกาย กรดลอริคจะถูกเปลี่ยนให้เป็นกรดโมโนลอริน ที่สามารถช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายของเรา และยังสามารถช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคต่าง ๆ ที่เข้าสู่ร่างกายได้อีกด้วย
เห็นมั้ยล่ะคะทุกคน กะทิไม่ได้มีดีแค่ทำอาหารหรือขนมนะคะ ยังสามารถช่วยเรื่องสุขภาพของเราได้อีกด้วยล่ะค่ะ ยังไงก็อย่าลืมไปลองทำดูนะคะ น่าสนใจทั้งนั้นเลยล่ะค่ะ